ปกติดีไซเนอร์จะมีฟอนต์ให้เลือกใช้สำหรับออกแบบหลายตระกูล แต่ใช่ว่าการออกแบบฟอนต์จะต้องมาจากการวาดเขียนเสมอไป ลองมาดูกันว่านอกจากฟอนต์ธรรมดาที่เราใช้แล้ว ถ้าโลกนี้ไม่มีกระดาษปากกาหรือไม่ใช้นิ้วเขียน เราจะสร้างสรรค์ฟอนต์จากอะไรได้อีก
Body Type
เริ่มฟอนต์แรกจาก Julius Raymund Advincula กราฟิกดีไซเนอร์ชาวฟิลลิปปินส์ที่ตอนนั้นเขากำลังเข้าร่วมชาเลนจ์ในโปรเจกต์ 36 Days of Type challenge (โปรเจกต์ที่ว่าด้วยการออกแบบตัวอักษรหรือตัวเลขต่อเนื่องกันใน 36 วัน) ระหว่างที่คิดว่าจะทำอะไรดี พอเข้าไปดูผลงานคนอื่นก็เห็นว่าดีไซน์ส่วนใหญ่เป็นงานวาดสายภาพประกอบกับงานเชิงดิจิทัล ด้วยความอยากฉีกจากคนอื่นก็ปิ๊งคอนเซ็ปต์ในหัวขึ้นมาเป็น ‘Body type’ จาก ‘Body language’ ซึ่งวิธีทำฟอนต์จาก Body Type คือการที่เขาสเปรย์น้ำมันลงบนผิว นั่งเปลือยหน้ากระจกแล้วสำรวจหาฟอนต์จากรอยพับหรือฟอร์มอวัยวะของตัวเอง
งานนี้มีตัวเขาเป็นแบบและมีผู้ช่วยที่คอยจัดท่ากับถ่ายภาพเก็บแต่ละฟอนต์ไว้ ส่วนเรื่องทำไมต้องสเปรย์น้ำมันก่อนถ่าย เขาให้คำอธิบายว่ามันช่วยเรื่องแสงเงา เติมความเป็นธรรมชาติให้กับผิวส่วนที่นูน แง่การใช้งานเราว่าฟอนต์ชุดนี้ไม่เหมาะกับข้อความยาวๆ แต่ถ้าเอาไปใช้ในเชิงสัญลักษณ์ เล่นกับการสื่อสารแนว Puzzle หรือ Text หากันแนว Sexual ก็ดูจะเป็นไอเดียที่เข้าท่า เพราะดีไซน์มันสร้างมู้ดได้ดี
Hair Typography
ฟอนต์เส้นผมที่มองว่าสวยก็ใช่ สยองก็ได้ ออกแบบโดย Monique Goossens อาจารย์สอน Interior Design and Visual Communication ฟอนต์นี้เกิดจากความตั้งใจที่เขาอยากให้มันนำไปใช้บน Magazine ปกหนังสือ และสร้างคอมมิชชั่นไว้เป็นค่าขนมส่วนตัว
วิธีสร้างฟอนต์เขาใช้การเรียงต่อและพันกันของผมหลายๆ เส้นมาบิด พัน หรือวางซ้อน ให้ช่วงกลางฟอนต์มีความหนาอ่านง่าย ส่วนปลายจะมีความยุ่งๆ แตกๆ ตามสไตล์ธรรมชาติของเส้นผมหน่อยแล้วถ่ายภาพไว้ ถ้ามองเทียบกับฟอนต์อื่นในซีรีส์ร่างกายที่เอามาฝาก ฟอนต์นี้จัดว่าอ่านง่ายและน่าจะใช้งานได้ง่ายที่สุด
PISSJAR Sans
ปิดท้ายด้วยฟอนต์สุดห่ามที่เขาใช้วิธียิงกระต่ายสร้างสรรค์ฟอนต์! ดีไซเนอร์งานนี้คือวงพังก์ชาวสวีเดนที่ออกแบบฟอนต์สำหรับปกวง (Record Sleeve) ด้วยการให้สมาชิกวงยิงกระต่ายหรือปัสสาวะใส่ผ้าปูที่นอนที่ขึงไว้ตึงๆ ให้เป็นตัวอักษร จากนั้นถ่ายภาพแล้วใช้โปรแกรมทำเวกเตอร์ดึงรอยหยดส่วนเกินออก เก็บไว้เฉพาะตัวที่อ่านเป็นฟอนต์ได้ชัดๆ ฉะนั้นเรื่องความแม่นจึงไม่เป็นอุปสรรค
คอนเซ็ปต์การออกแบบครั้งนี้เขาบอกว่าเป็น “the dirty hardcore punk that we play.” ใครอยากรู้ว่าเพลงมันส์ขนาดไหนถึงดีไซน์ปกวงด้วยฟอนต์แบบนี้ เข้าไปค้นหาอัลบั้ม Apathy & Cheap Thrills ฟังดูได้ ส่วนใครอยากโหลดไปใช้เอามันส์ ฟอนต์นี้เป็นฟอนต์เดียวที่เขาก็เปิดให้โหลดใช้ฟรีแล้วในนี้
ชั่วโมงนี้ใครคิดออกว่าจะสร้างฟอนต์จากอะไรที่เวิร์ก หรือเห็นฟอนต์ไหนแล้วประทับใจก็เอามาแชร์กันได้ จะได้ไม่ตันกับฟอนต์เดิมๆ
