สมัยเรียนเวลาพูดถึงศิลปะ ส่วนใหญ่เขาจะเชื่อมโยงศิลปะกับสถานการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น ยุคไหนบ้านเมืองสงบจัดๆ งานศิลป์จะรุ่งเรือง เพราะเขาจะเอาเงินไปอุดหนุนงานศิลป์ คนจะจินตนาการเฟื่องฟูได้มากกว่าความแร้นแค้น เลยไม่ค่อยมีมุมที่พูดถึงศิลปะในช่วงสงครามเท่าไร
Eric Ravilious
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี เพราะ Eric Ravilious คือศิลปินที่มีหน้าที่ถือพู่กันกลางสนามรบโดยเฉพาะ เราเลยอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกันสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้มีภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายสร้างจากอัตชีวประวัติของเขาแล้วด้วย รู้จักกันไว้ก็คงไม่เสียหาย
Eric Ravilious เป็นศิลปินคนสำคัญในศตวรรษที่ 20 มีความสามารถด้านสีน้ำ แกะสลัก ภาพพิมพ์ แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อนักเพราะคนส่วนใหญ่มักจะมองข้าม (underrated) งานเขาและผลงานของเขาจำนวนไม่น้อยก็หายไปพร้อมสงคราม รูปแบบแนวผลงานส่วนใหญ่ที่เขาวาดเป็นภาพแนว Landscape ภาพแลนด์มาร์กต่างๆ ในอังกฤษ
ความเกี่ยวข้องระหว่าง Ravilious กับ War Art เกิดขึ้นในช่วงที่ยุโรปเกิดสงครามครั้งที่สอง เพราะในปี 1939 เขาถูกคัดเลือกเข้าไปทำตำแหน่งทหารเรือที่ทำหน้าที่เป็น War Artist บันทึกภาพสงครามในมุมมองพยาน โปรเจกต์นี้มีศิลปินกว่า 300 คนที่ถูกคัดเลือกเข้ามาและถูกส่งเข้าสมรภูมิไปเพื่อบันทึกภาพ งานของเขาทุกวันจึงเป็นการนั่งวาดภาพบนดาดฟ้าเรือรบทหารที่มีเครื่องบินขับไล่โฉบอยู่บนหัว ทำงานในพื้นที่อันตราย
แต่เอกลักษณ์หรือจะเรียกว่าเป็นความแปลกของผลงาน War Art จาก Ravilious คือ Mood Tone ภาพแนว War Art ของเขา ที่ถ้าเทียบกับศิลปินร่วมสมัย มองได้เลยว่าคอนทราสต์กันสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีหรือมุมมองการถ่ายทอดภาพออกมาแบบเชิงบวก
ความเรียบง่าย นุ่มนวล เบาตา สบายใจ และสีพาสเทลที่ทำให้ทุกอย่างดูซอฟต์ลง ทำให้ทุกอย่างเหมือนอยู่ในภาพฝันมากกว่ากลางสงคราม ภาพระเบิดที่เขาวาดเหมือนจุดดอกไม้ไฟ เครื่องบินร่อนสงครามอยู่เหนือท้องฟ้าก็เหมือนวิวธรรมดาที่กลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้าง เราแทบไม่เห็นความอันตรายที่ซ่อนอยู่ ต่างจากภาพของศิลปินร่วมสมัยที่อยู่ร่วมสงครามเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เช่น ถ้าเปรียบเทียบงานของเขากับ Shelterers in the Tube, 1941 ของ Henry Moore จะเห็นเลยว่าภาพ Henry หดหู่ สิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายสงครามก็ไม่ใช่ปลอดภัยของศิลปินเพราะ Ravilious เป็น War Artist คนแรกที่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจเดินทางค้นหาและกู้ภัย หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินที่เขาโดยสารหายไปนอกชายฝั่งไอซ์แลนด์
ใครที่อยากดูมู้ดงานเขา สามารถเข้าไปดูต่อใน Wiki Art ได้ที่ : Eric Ravilious
ส่วนใครที่อยากรู้ว่าทำไม Eric Ravilious ถึงถ่ายทอดผลงานออกมาในมุมมองแบบนี้ หากมองตามหลักฐานที่มีจากจดหมายที่เขากลับมาให้แฟนระหว่างอยู่ที่สนามรบ นี่คงเป็นมุมมองของศิลปินที่รักศิลปะและเห็นภาพที่สวยงามในสงครามจริงๆ ในทุกๆ วันและถ่ายทอดมันออกมาด้วยความรัก แต่นอกเหนือจากนี้มุมมองด้านอื่นอีกไหม ขอแนะนำให้ไปติดตามต่อได้จากภาพยนตร์เรื่อง Eric Ravilious – Drawn to War
ที่มา: www.bbc.com