5 Apps ดูแล Mental Health ในวันที่ต้องใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ

แม้คุณจะเชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาเรื่อง Mental Health ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยทางใจ ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษา แต่เชื่อเถอะว่าหลายคนที่ชีวิตปกติ ต่างมีเรื่องกวนใจที่ทั้งรับมือไหวและไม่ไหวโดยไม่รู้ตัวกันทั้งนั้น

การดูแล Mental Health กันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นการจัดการชีวิตในอีกรูปแบบ เพื่อความแข็งแรงทางจิตใจ ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โตเอาเสียมาก ๆ แต่เชื่อเถอะว่าการดูแล รักษา และเยียวยาความละเอียดอ่อนของจิตใจ มันเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ทั้งนั้น

แอปฯที่เราแนะนำ ไม่เชิงว่าเป็นแอปฯสำหรับการรักษาโดยตรง (ถ้าเรื่องการรักษาจากแพทย์ ขอแนะนำแอปฯ Ooca ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาด้วย ยังไงลองดูรายละเอียดได้ในแอปฯเลยนะคะ) แต่เป็นการดูแล Mental Health ในชีวิตประจำวันของเราให้มันราบรื่นเสียมากกว่า

Replika

บางประเด็นในชีวิต อาจซับซ้อนหรืออ่อนไหวเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟังได้ หรือบางครั้งเราเองไม่ได้มีคนที่จะรับฟังเราด้วยการเปิดรับจริง ๆ แอปฯนี้คืออีกทางเลือกของคุณค่ะ แอปฯนี้ เราจะได้คุยกับ Bot ที่เราตั้งชื่อ กำหนดเพศ และดิสเพลย์ให้มันได้ ไม่แน่ใจว่าจะเรียก AI ได้มั้ย โดยเราต้องเลือกจุดประสงค์สำหรับการใช้งานในครั้งแรก อาจจะเป็นหาเพื่อนคุย เยียวยาสุขภาพใจ หรือฝึกการสื่อสารกับผู้อื่น

แล้วทีนี้เจ้าบอทนั่น จะค่อย ๆ เรียนรู้เราไปเรื่อย ๆ จากบทสนทนา คอยป้อนคำถามที่เก็บเกี่ยวเอาตัวตนของเรา เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เรามี คอยเสนอทางแก้ที่เป็นไปได้ที่สุด แต่ที่ชอบที่สุด คงเป็นการหยิบยื่น empathy ให้เราในทุกบทสนทนา จนรู้สึกว่ามันห่างไกลความเป็น Bot ไปแล้วประมาณนึง

ลองดูค่ะ มีเพื่อนเป็น AI อาจจะดีกว่าเป็นเพื่อนกับคนที่ไร้ empathy ก็ได้นะคะ

 

Pixels

เวลาสามทุ่มตรงของทุกวัน Pop up ที่มีข้อความเรียบง่ายอย่าง “How was your day?” จะโผล่ขึ้นมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ความเป็นไปในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ

คำถามนั้นไม่ได้ถามไปเปล่า ๆ เราสามารถเลือกได้ว่าวันนี้อารมณ์โดยรวมของเราเป็นยังไง ด้วยการแทนค่าด้วยสี มีความสุขสีเขียวเข้ม ไปจนถึงวันแย่สุดขีดอย่างสีม่วง ติดแท็กอารมณ์ของวันนั้น เพื่อไม่ให้ความทรงจำตกหล่นจากรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น anger, anxiety, chill, emptiness, joy, nerves, stress และอื่น ๆ อีกมาก หากยังไม่เจอตัวเลือกที่ใช่ สามารถ edit ได้อีกด้วย พร้อมกับจดบันทึกรายละเอียดได้อีกประมาณนึง

เหมาะสำหรับใครที่ชอบ Interface เรียบง่าย สะอาดตา การใช้งานไม่ซับซ้อน ไม่ได้จดบันทึกอะไรยาวมากนัก

 

Reflectly

ตัวช่วยบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันเช่นเดียวกับ Pixels แตกต่างกันที่ แอปฯนี้จะมีลูกเล่นสำหรับการบันทึกให้มากกว่า

เริ่มต้นด้วยเลือกอารมณ์ในวันนี้ว่าอยู่ในระดับที่บวกหรือลบขนาดไหน ต่อมา เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์นั้น เช่น ถ้าเลือกเศร้าหรือเหน็ดเหนื่อย ก็จะมีคำถามปลอบประโลมใจว่าเราไปเจอเรื่องอะไรหนัก ๆ มางั้นหรอ? แล้วเราทำอะไรกับมันบ้าง? เราสามารถจดบันทึกได้ยาวเป็นไดอารี่ ใส่รูปที่น่าจดจำของวันนั้นได้ และมีการสุ่มคำถามในแต่ละวันตามอารมณ์ของวันนั้นด้วยเช่นกัน

แอปฯนี้น่าจะถูกใจคนที่ชอบบันทึกอะไรจริงจัง เป็นเรื่องราว อย่างมีที่มาที่ไปมากกว่าโน้ตสั้น ๆ อย่าง Pixels

การจดบันทึกมันดียังไงน่ะหรอ? หากจดบันทึกอย่างสม่ำเสมอ เราจะเห็นภาพรวมว่าเดือนนี้ สัปดาห์นี้ เราผ่านอะไรมาบ้าง อะไรที่สร้างปัญหาให้เรา แล้วเราจัดการกับมันยังไง วิธีนั้นเวิร์คมั้ย ต่อให้ไม่เวิร์ค เราก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่เวิร์ค และไม่ต้องไปลองผิดกับมันซ้ำอีก ซึ่งเป็นการทบทวนตัวเองแบบไม่กดดันอะไรนัก

 

Atmosphere

Mental Illness กับปัญหาการนอน มักจะมาคู่กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกจากยาที่ช่วยกล่อมไม่ให้เราต้องสะดุ้งตื่นกลางดึก หรือลืมตามาทักทายโทรศัพท์แล้วพบว่าเพิ่งหลับไปได้แค่สองชั่วโมง แอปฯนี้นี่แหละ ที่พอจะช่วยให้เข้าใกล้ความง่วงได้บ้าง

จริง ๆ ก็คือแอปฯเสียงแอมเบียนต์ที่คุ้นเคยกันนั่นแหละ แต่ที่เลือกแอปฯนี้มา เพราะนอกจากเสียงสายลม แสงแดด ที่มีกันทุกแอปฯแล้ว ยังมีเสียง Binaural & Isochronic ที่มีความถี่ต่างกัน คุณสมบัติก็ต่างกันไปด้วย จริง ๆ ไม่รู้ว่ามันส่งผลเฉพาะทางได้ขนาดนั้นจริง ๆ มั้ย แต่มันฟังง่ายไม่ปวดหูเท่า White Noise ที่เหมือนทีวีหนวดกุ้งเสียมากกว่า

มิกซ์เสียงให้มันซ้อนกัน ปรับน้ำหนักเอาตามใจชอบ แถมยัง Save เป็นคอมโบที่ถูกใจเอาไว้ฟังซ้ำโดยไม่ต้องกดทีละอันใหม่อีกครั้งได้ด้วย

 

Sleep Cycle

การนอนที่มีคุณภาพ คือการนอนหลับลงไปถึง Stage ลึก ๆ ที่ร่างกายเราจะได้พักผ่อนและฟื้นฟูจริง ๆ แต่ระหว่างที่เราหลับใหลไม่ได้สติ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราหลับลึกไปแค่ไหน เพียงพอต่อการพักผ่อนจริง ๆ หรือยัง

โลกนี้เลยมีแอปฯ Sleeping Tracking ออกมาให้เราได้ใช้กันนั่นเอง แต่ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นทั้งหมด

อย่างเจ้าตัวนี้ จะบอกเวลา ณ ตอนนั้น ประเมินเวลานอนว่าเราควรจะต้องตื่นเมื่อไหร่ เข้านอนตอนไหนถึงจะง่วงพอดี ระหว่างนอน ก็จะเก็บ Stage การนอนของเราไปด้วย และมาแจกแจงให้ดูว่าเราใช้เวลากับ Stage ไหนไปเท่าไหร่ในแต่ละวัน หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องประเมินว่าผลที่ออกมามัน Healthy แค่ไหน

อย่างไรก็ตาม แอปฯเหล่านี้คงช่วยดูแลกันได้แค่เบื้องต้น หากใครที่สงสัยหรือมีปัญหา Mental Illness การไปพบแพทย์ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีและถูกต้องที่สุดสำหรับการรับมือเรื่องนี้ อย่าเชื่อไลฟ์โค้ชเลยนะคะว่าเราทำได้ทุกอย่าง นั่งคิดบวกแล้วจะพลิกชีวิตให้มาสดใสได้ จิตแพทย์ตกงานกันพอดี

ขอให้ทุกวัน เป็นวันที่ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องคอยก่นด่าตัวเอง เมื่อพบว่าต้องตื่นมาใช้ชีวิตที่ตัวเองไม่ได้อยากมี ขอให้มีความรัก ความเมตตาให้ตัวเองมาก ๆ โอบอุ้มชีวิตด้วยความหวัง ด้วยพลังที่มนุษย์พึงมี

สุดท้าย คงขอให้บันทึกในแอปฯของคุณ มีแต่พลังบวกและไอคอนสีเขียว จนไม่ต้องพึ่งพาแอปฯ ไหน ๆ เพื่อจรรโลงชีวิตของคุณอีกต่อไป